Ads Top

#กับดับของความเคยชิน


#บทความนี้ดีมากอยากให้ทุกคนได้อ่าน
#กับดับของความเคยชิน
"ความมืดทำให้คุณมองไม่เห็น
แต่ความมืดที่นานขึ้นทำให้คุณมองเห็นมากขึ้น"
.
เมื่อเราปิดไฟเราจะมองไม่เห็น
แต่พอซักพักรูม่านตาเราขยาย
ทำให้มองเห็นในความมืดได้มากขึ้น
เป็นการปรับตัวตามธรรมชาติของมนุษย์
และเป็นการปรับตัวที่อยู่เหนือการควบคุม
เพราะเป็นระบบประสาทอัตโนมัติ (Automatic Nervous System) ประเภท sympathetic
.
ระบบประสาทของมนุษย์มีหลายหน้าที่ หลายฟังก์ชันมากๆ แต่ประเด็นที่จะพูดถึงวันนี้ คือเรื่องของการปรับสภาพร่างกายให้เกิด "ความเคยชิน" โดยอัตโนมัติเพื่อทั้งลดความเจ็บปวดของร่างกายและลดการทำงานของสมอง เช่น
.
เราได้กลิ่นเหม็นจากรถขยะที่อยู่ๆมาจอดหน้าบ้าน
ถ้ารถคันนี้จอดนานขึ้น เราจะรู้สึกเหม็นน้อยลง
ไม่ใช่เพราะรถเหม็นน้อยลง
แต่เพราะสมองปรับให้จมูก "เคยชิน" กลิ่นมากขึ้น
.
เราไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า
เราจะหิวมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นจนถึงจุดหนึ่ง
เราจะหิวลดลง ไม่ใช่เพราะเราไม่หิวหรือไม่ต้องการอาหารแล้ว แต่เพราะสมองปรับให้เรา "เคยชิน" ความหิวมากขึ้น
.
เราอยู่ๆเข้าไปในผับตอนตีหนึ่งช่วงกำลังพีค
เพลงดังจนฟังแทบไม่ไหว ขี้หูสะเทือนเต้นระบำไปทั้งหู
แต่พอไปซักพัก เราจะรู้สึกไม่ได้ดังอะไร
ไม่ใช่เพราะเพลงเบาลง แต่เพราะเรา "เคยชิน" มากขึ้น
.
แม้กระทั่งเราปวดฉี่มากๆๆๆ
ถ้ายังไม่ได้ฉี่ เราจะปวดน้อยลงจนหายปวด
(รอปวด loop ใหม่) ก็สามารถอธิบายด้วย logic นี้เช่นกัน
.
ประเด็นที่ผมกำลังจะบอกคือ
"ความเคยชิน" คือสิ่งที่เป็นดาบสองคม
คมที่ดี คือช่วยให้เราเจ็บปวดน้อยลง ปรับสภาพร่างกายให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีขึ้น หากไม่มีความเคยชินนี้ เราคงเหม็นกลิ่นสกปรกกันตลอด เราคงหิวกันทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอะไร เราคงหูสะเทือนตลอดเวลาที่เข้าผับ และเราจะปวดฉี่จนทำอะไรไม่ได้ในเวลาไม่ได้เข้าห้องน้ำ และอีกมายมายในชีวิตที่เราต้องขอบคุณสมองที่ช่วยสร้าง "ความเคยชิน" ให้เกิดขึ้นในชีวิต!
.
แต่ในอีกนัยหนึ่ง...
"ความเคยชิน" คือศัตรูตัวฉกาจเลเวลสูงสุด
ที่ขัดขวางการพัฒนาตัวเองของมนุษย์
.
คุณเคยเจอบางเรื่อง บางคนหรือบางสถานการณ์ที่ไม่ดีในชีวิตคุณไหมครับ ตอนแรกมันแย่มาก คุณรู้สึกแย่มากๆๆ แต่ซักพักพอเวลาผ่านไป คุณรู้สึกดีขึ้น ไม่แย่เหมือนก่อน ไม่ใช่เพราะสถานการณ์มันดีขึ้นนะครับ แต่เพราะคุณ "เคยชิน" มากขึ้นต่างหาก
.
คุณอาจเคยได้ยินว่า "กาลเวลาจะเยียวยาทุกอย่าง"
จริงๆถูกครึ่งเดียว เวลาไม่ได้ช่วยอะไร
แต่การที่เวลาผ่านไป ช่วยมีเวลาให้เรา "เคยชิน" มากขึ้นต่างหาก!
.
"#กับดักของความเคยชิน"
เป็นกับดักสำคัญ ที่เป็นตัวขัดขวางไม่ให้ชีวิตเราก้าวขึ้นไปข้างหน้า เพราะมัน 'ชิน' ละไง มันโอเคแล้ว ทุกวันนี้มันก็ดีอยู่แล้ว
.
"อย่ายอมรับเรื่องแย่ๆ
ให้กลายมาเป็นแค่เรื่องปกติใน comfort zone"
คุณเคยชินกับมันเมื่อไหร่ เหมือนต่อลมหายใจให้มันจะอยู่กับคุณไปตลอดและแถมอยู่ไปนานๆมันจะไปพาเพื่อนมาเพิ่มอีก คือไปนำพาเรื่องแย่ๆเรื่องอื่นเข้ามาในชีวิตคุณอีกไม่รู้จบ!
.
คำถามที่ผมอยากถามเพื่อให้คุณถามตัวเองต่อ
"ว่าชีวิตทุกวันนี้ มันดีแล้วจริงๆๆหรอ"
มันดีจริงๆๆๆ หรือมันแค่ชินไปแล้วจริงๆๆ
ถ้าคำตอบจากหัวใจของคุณมันดีแล้วจริงๆ
ผมยินดีด้วยครับ!
.
แต่ถ้าลึกๆแล้วมันไม่ใช่
เคยได้ยินไหมครับ
อุปสรรคของชีวิตที่ดีกว่า ไม่ใช่ชีวิตที่แย่นะครับ
แต่อุปสรรคของชีวิตที่ดีกว่า
คือชีวิตที่(คิด)ว่าดีที่อยู่แล้ว
.
เวลาเราฟังประวัติคนสำเร็จ
เรามักได้ยินว่าเขาเริ่มจากติดลบ
หรือทำอะไรบางอย่างแล้วล้มเหลวหนักมาก
จนสุดท้ายฟื้นตัวได้ เด้งเกินมาไกลจากจุดเดิม
ที่คนพวกนี้สำเร็จไดั เพราะเขาหลุดจาก
"กับดับของความเคยชิน" ไปโดยธรรมชาติ
เพราะมันแย่เกินกว่าจะชินได้ ยังไงเขาต้องถีบตัวเองให้หลุดจากจุดนั้นให้ได้แบบ whatever it takes
.
ถ้าวันนี้คุณพอใจกับชีวิตแล้ว
ผมยินดีด้วยที่คุณจะหยุดเท่านี้และใช้ชีวิต
แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่พอใจกับชีวิต
คุณยังมีอีกหลายความฝันที่ต้องพิชิต
.
อะไรก็ตามที่คุณปล่อยไว้ สิ่งนั้นจะขยายตัวเสมอ
ฉะนั้น จงอย่าติดกับดักของความเคยชินเป็นอันขาด
อย่ายอมให้เรื่องแย่ๆเป็นแค่เรื่องธรรมดา
จนปล่อยให้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นบ่อยๆกลายเป็นเรื่องชินชา
.
จงกล้าหาญที่จะเปลี่ยนแปลง เรียนรู้
เติบโตและพัฒนาตัวเองในทุกวัน
และซักวัน ไม่ช้าก็เร็ว...
ตราบได้ที่คุณลงมือทำแบบ whatever it takes
คุณจะได้ชีวิตที่ดีที่คุณต้องการ
.
#ชีวิตที่ดีไม่ได้เป็นของใครก็ได้
#ชีวิตที่ดีเป็นของคนที่คู่ควร
.
#ครูชัยMIB
#เห็นว่าดีโปรดช่วยแชร์

No comments:

Powered by Blogger.