5 วิธี เขียนคอนเทนต์ยังไง ไม่ให้น่าเบื่อ
5 วิธี เขียนคอนเทนต์ยังไง ไม่ให้น่าเบื่อ
.
.
จะโพสต์ขายของยังไงให้ลูกค้าไม่เบื่อและไม่น่ารำคาญ ?
โพสต์แบบไหนให้ขายของได้ โพสยังไงให้คนสนใจ
บางคนก็ให้ความสำคัญของเวลาโพสต์ ช่วง เช้า สาย บ่ายค่ำก็ว่ากันไป
.
แต่ความสำคัญสุด ๆ แล้ว มันอาจไม่ใช่เวลา หรือจำนวนโพสต์ แต่มันอยู่ที่ “Content” ครับ
เน้นทำ “Contentให้ลูกค้าไม่ใช่สินค้า” สร้างเรื่องราวให้แบรนด์
ทำให้เกิดการ Like และแชร์ สร้างการรับรู้ เกิดความต้องการ
ใส่เนื้อหาทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เกิดความต้องการจนถึงขั้นตัดสินใจซื้อ
1.สร้างอารมณ์ Emotions
ข้อความที่เข้าไปกระแทกใจ กระตุ้นต่อมความรู้สึกให้ทำงาน สุข เศร้า ฮาน้ำตาไหล
เสพแล้วมีอารมณ์ “อึ้ง ทึ่ง ซึ้ง เสียว ดราม่าฮาสัส” แบบนี้เลยถึงจะ Go Viral มากที่สุด
ไม่ว่าภาพตัวอักษร ภาพเคลื่อนไหว มักถูกไลค์ถูกแชร์ถล่มทลาย
เคยชม Content ของประกันชีวิตมั้ยฮะ..แบบนั้นเลย
ดูแล้วให้ปาดน้ำตากันทีเดียว คือแม่งสร้าง Story ได้ชวนดูมาก
Trend ทุกวันนี้บอกเลย..แม่งเน้น Emotions กระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคด้วยความอยาก
เล่าเรื่องแบบ Storytelling คล้ายเรื่องเล่า ร้อยต่อกัน เข้าไปฮุกต่อมอารมณ์ร่วม ให้คนดูสนใจ
เกิดการจดจำเรื่องราวนั้น ..ดังนั้น บอกเลยนะ คุณจะต้องสร้างสิ่งที่ผู้อ่านต้องการเห็น
สิ่งที่พวกเขาสนใจและเป็นประโยชน์ แทนที่จะไปสร้างแต่สิ่งที่ใคร ๆ ก็เบื่อหน่าย อวดอ้างโฆษณาชวนเชื่อ
เนื้อหาแม่งต้องมี “คุณค่า” อยู่ในเนื้อแท้ของมันเอง ที่ผู้อ่าน ผู้ฟัง ผู้ชมดูแล้วจิ๊ด ซี้ด ซ้าด
2.ให้ความรู้ How to
ให้ความรู้ สอนอะไรบางอย่าง ลูกค้าสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
แบ่งปันสิ่งดี ๆ Content แบบนี้จะขยายวงกว้าง
จงจำไว้เลยนะว่า “ให้เล่าเรื่องที่ลูกค้าอยากฟัง ไม่ใช่แบรนด์อยากบอก”
แล้ว Content แม่งจะปังมาก จะกลายเป็น Content ที่มีคุณค่า (Value content)
เช่น บอกเคล็ดลับวิธียิง Ads ให้โดน วิธีการลงทุนสำหรับมือใหม่
สร้างเนื้อหาดี ๆ มีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย จนเขาประทับใจจนรู้จักแบรนด์ จดจำเรา
ไม่ว่าเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาได้ประโยชน์รับความรู้
เค้าจะรู้สึกประทับใจ บอกต่อ…สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อ Brand
ได้ลูกค้าเพิ่ม ยอดขายปังง่ายไม่ยากเลยฮะ
3.แก้ปัญหา
สร้างสรรค์ Content จากปัญหาและความเจ็บปวดของลูกค้า เช่น ปัญหาความอ้วน
เนื้อหาที่เราต้องครีเอทออกมาพวก “10 วิธีผอมไม่ต้องอดก็ลดได้” “5 เมนูคลีนเพื่อสุขภาพ”
คือ Content แม่งต้องไปทิศทางเดียวกับสินค้าเรานะ แล้วคุณลองสังเกตดู
อะไรที่แม่งเป็นปัญหาแล้วโดนใจคน โอกาสแชร์ต่อ จนเกิดเป็น ไวรัล แม่งสูงมาก
4. ให้ไอเดีย idea
สร้างวิดีโอ ทำคลิปหรือเป็นภาพข้อความ คนอ้วนมีปัญหายังไง อ้วนแล้วจะเป็นโรคอะไร อ้วนแล้วใส่อะไรก็ไม่สวย และต่อท้ายใช้สินค้าเราแล้วจะเป็นยังไง ผลดียังไงบ้าง มันเป็นการกระตุ้นความคิดให้ผู้คนเห็นประโยชน์ Content แบบนี้ช่วยเปลี่ยนยอดชมให้เป็นยอดซื้อได้ดีเลยนะ
5. สร้างแรงบันดาลใจ
พวกคำคมแนวคิดกำลังใจ ผมเห็นปังหลายคน บางคนสร้างแบรนด์จนเกิดสัมมนาได้เลย
คือมันเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยไง แต่ถ้าโฟกัสเจาะกลุ่มจัง ๆ ไปเลย ปังง่ายไม่ยาก
วัยรุ่น วัยทำงาน รัก เรื่องงาน คือโฟกัสให้เด่นไปสักเรื่อง
หว่านแหไปหาคำคมโดน ๆ ตรงเป้ายากฮะ จะเล่นคนอกหัก คนทำงาน หรืออะไรก็ว่าไป
ฮุกตรงเป้าและหมัดแม่งหนักกว่า แค่ทำข้อความดี ๆ โดน ๆ สั้น ๆ กระชับได้ใจความ
เสริมน้ำหนักด้วยภาพ ให้แม่งหยุดสตั้นหันมาคลิก
ทำได้ดี ทำได้โดน ผมเห็นแม่งแจ้งเกิดมาหลายคนล่ะ
ถ้าอยากให้โพสขายของ ของคุณดูไม่น่าเบื่อ ให้มันเป็นมากกว่าโพสขายของ
สร้างคุณค่าให้กับมัน แล้วมูลค่าจะตามมา ให้เนื้อหาสาระของตัวมัน ขายตัวมันเองได้
ทำเนื้อหาออกมา แบบที่ลูกค้าเห็นแล้วตกลงใจซื้อ บริการนั้นทันที
.
.
จะโพสต์ขายของยังไงให้ลูกค้าไม่เบื่อและไม่น่ารำคาญ ?
โพสต์แบบไหนให้ขายของได้ โพสยังไงให้คนสนใจ
บางคนก็ให้ความสำคัญของเวลาโพสต์ ช่วง เช้า สาย บ่ายค่ำก็ว่ากันไป
.
แต่ความสำคัญสุด ๆ แล้ว มันอาจไม่ใช่เวลา หรือจำนวนโพสต์ แต่มันอยู่ที่ “Content” ครับ
เน้นทำ “Contentให้ลูกค้าไม่ใช่สินค้า” สร้างเรื่องราวให้แบรนด์
ทำให้เกิดการ Like และแชร์ สร้างการรับรู้ เกิดความต้องการ
ใส่เนื้อหาทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ เกิดความต้องการจนถึงขั้นตัดสินใจซื้อ
1.สร้างอารมณ์ Emotions
ข้อความที่เข้าไปกระแทกใจ กระตุ้นต่อมความรู้สึกให้ทำงาน สุข เศร้า ฮาน้ำตาไหล
เสพแล้วมีอารมณ์ “อึ้ง ทึ่ง ซึ้ง เสียว ดราม่าฮาสัส” แบบนี้เลยถึงจะ Go Viral มากที่สุด
ไม่ว่าภาพตัวอักษร ภาพเคลื่อนไหว มักถูกไลค์ถูกแชร์ถล่มทลาย
เคยชม Content ของประกันชีวิตมั้ยฮะ..แบบนั้นเลย
ดูแล้วให้ปาดน้ำตากันทีเดียว คือแม่งสร้าง Story ได้ชวนดูมาก
Trend ทุกวันนี้บอกเลย..แม่งเน้น Emotions กระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคด้วยความอยาก
เล่าเรื่องแบบ Storytelling คล้ายเรื่องเล่า ร้อยต่อกัน เข้าไปฮุกต่อมอารมณ์ร่วม ให้คนดูสนใจ
เกิดการจดจำเรื่องราวนั้น ..ดังนั้น บอกเลยนะ คุณจะต้องสร้างสิ่งที่ผู้อ่านต้องการเห็น
สิ่งที่พวกเขาสนใจและเป็นประโยชน์ แทนที่จะไปสร้างแต่สิ่งที่ใคร ๆ ก็เบื่อหน่าย อวดอ้างโฆษณาชวนเชื่อ
เนื้อหาแม่งต้องมี “คุณค่า” อยู่ในเนื้อแท้ของมันเอง ที่ผู้อ่าน ผู้ฟัง ผู้ชมดูแล้วจิ๊ด ซี้ด ซ้าด
2.ให้ความรู้ How to
ให้ความรู้ สอนอะไรบางอย่าง ลูกค้าสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
แบ่งปันสิ่งดี ๆ Content แบบนี้จะขยายวงกว้าง
จงจำไว้เลยนะว่า “ให้เล่าเรื่องที่ลูกค้าอยากฟัง ไม่ใช่แบรนด์อยากบอก”
แล้ว Content แม่งจะปังมาก จะกลายเป็น Content ที่มีคุณค่า (Value content)
เช่น บอกเคล็ดลับวิธียิง Ads ให้โดน วิธีการลงทุนสำหรับมือใหม่
สร้างเนื้อหาดี ๆ มีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย จนเขาประทับใจจนรู้จักแบรนด์ จดจำเรา
ไม่ว่าเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ อะไรก็ได้ที่ทำให้เขาได้ประโยชน์รับความรู้
เค้าจะรู้สึกประทับใจ บอกต่อ…สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อ Brand
ได้ลูกค้าเพิ่ม ยอดขายปังง่ายไม่ยากเลยฮะ
3.แก้ปัญหา
สร้างสรรค์ Content จากปัญหาและความเจ็บปวดของลูกค้า เช่น ปัญหาความอ้วน
เนื้อหาที่เราต้องครีเอทออกมาพวก “10 วิธีผอมไม่ต้องอดก็ลดได้” “5 เมนูคลีนเพื่อสุขภาพ”
คือ Content แม่งต้องไปทิศทางเดียวกับสินค้าเรานะ แล้วคุณลองสังเกตดู
อะไรที่แม่งเป็นปัญหาแล้วโดนใจคน โอกาสแชร์ต่อ จนเกิดเป็น ไวรัล แม่งสูงมาก
4. ให้ไอเดีย idea
สร้างวิดีโอ ทำคลิปหรือเป็นภาพข้อความ คนอ้วนมีปัญหายังไง อ้วนแล้วจะเป็นโรคอะไร อ้วนแล้วใส่อะไรก็ไม่สวย และต่อท้ายใช้สินค้าเราแล้วจะเป็นยังไง ผลดียังไงบ้าง มันเป็นการกระตุ้นความคิดให้ผู้คนเห็นประโยชน์ Content แบบนี้ช่วยเปลี่ยนยอดชมให้เป็นยอดซื้อได้ดีเลยนะ
5. สร้างแรงบันดาลใจ
พวกคำคมแนวคิดกำลังใจ ผมเห็นปังหลายคน บางคนสร้างแบรนด์จนเกิดสัมมนาได้เลย
คือมันเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัยไง แต่ถ้าโฟกัสเจาะกลุ่มจัง ๆ ไปเลย ปังง่ายไม่ยาก
วัยรุ่น วัยทำงาน รัก เรื่องงาน คือโฟกัสให้เด่นไปสักเรื่อง
หว่านแหไปหาคำคมโดน ๆ ตรงเป้ายากฮะ จะเล่นคนอกหัก คนทำงาน หรืออะไรก็ว่าไป
ฮุกตรงเป้าและหมัดแม่งหนักกว่า แค่ทำข้อความดี ๆ โดน ๆ สั้น ๆ กระชับได้ใจความ
เสริมน้ำหนักด้วยภาพ ให้แม่งหยุดสตั้นหันมาคลิก
ทำได้ดี ทำได้โดน ผมเห็นแม่งแจ้งเกิดมาหลายคนล่ะ
ถ้าอยากให้โพสขายของ ของคุณดูไม่น่าเบื่อ ให้มันเป็นมากกว่าโพสขายของ
สร้างคุณค่าให้กับมัน แล้วมูลค่าจะตามมา ให้เนื้อหาสาระของตัวมัน ขายตัวมันเองได้
ทำเนื้อหาออกมา แบบที่ลูกค้าเห็นแล้วตกลงใจซื้อ บริการนั้นทันที
No comments: